อาตมามีโอกาศได้อ่านหนังสือมากมายเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาแล้วได้อ่านหนังสือของพระพรหมคุณาภรณ (ป. อ.
ปยุตฺโต)จึงขออนุญาติคัดลอกมาให้สาธุชนได้อ่านสดับสติปัญญาเพราะคัดมาเพียงบางช่วงของหนังสือเท่านั้นที่เห็นว่าน่าสนใจ
รูจักพระไตรปิฎกพระพุทธศาสนาไมใชปรัชญา
เบื้องแรกตองรูความแตกตางระหวางศาสนากับปรัชญากอนปรัชญาเปนเรื่องของการคิดหาเหตุผล และถกเถียงกันในเรื่องเหตุ
ผลนั้นเพื่อสันนิษฐานความจริง เรื่องที่ถกเถียงนั้นอาจจะไมเกี่ยวกับการดําเนินชีวิตที่เปนอยู เชน นักปรัชญาอาจจะถกเถียงกันวา จักรวาลหรือจักรภพเกิดขึ้นเมื่อไรและจะไปสิ้นสุดเมื่อไรโลกจะแตกเมื่อไร ชีวิตเกิดขึ้นเมื่อไร
เปนตนนอกจากนั้น นักปรัชญาก็ ไม
จําเปนตองดําเนินชีวิตตามหลักการอะไร
หรือแมแตใหสอดคลองกับสิ่งที่ตนคิด เขาคิดหาเหตุผลหาความจริงของเขาไป โดยที่วาชีวิตสวนตัวอาจจะเปนไปในทางที่ตรงขามก็ได เชน นักปรัชญาบางคนอาจจะเปนคนคุมดี -คุมราย บางคนสํามะเลเทเมา บางคนมีทุกขจนกระทั่งฆาตัวตายแตศาสนาเปนเรื่องของการปฏิบัติ
เรื่องของการดําเนินชีวิตหรือการนํามาใชใหเป นประโยชนในชี วิตจริง การปฏิบัตินั้นตองมีหลักการที่แนนอนอยางใดอยางหนึ่ง และจะตองมีจุดหมายชัดเจนดวยวาต องการอะไร การที่ตองมีขอปฏิบัติ ที่แนนอนและตองมีจุดหมายที่ชัดเจนนั้น ผูปฏิบัติก็ตองยอมรับหลักการอยางใดอยางหนึ่ง
และก็ตองถามตอไปวาจะยอมรับหลั กการที่บุคคลผูใดได คนพบหรือแสดงไว
ซึ่งเราเรียกวาพระ “ศาสดา”เพราะฉะนั้น ผูปฏิบัติคือศาสนิกชน เริ่มตนก็ตองยอมรับหรือเชื่อการตรัสรูหรือการคนพบความจริงขององค พระศาสดา
หรือยอมรับหลักการที่ศาสนานั้นได แสดงไว ซึ่งเราเรียกวาคําสอนเพราะฉะนั้นศาสนิกจึงมุงไปที่ตัวคําสอนของพระศาสดา หรือหลักการที่ศาสนาวางไว คําสอนของพระศาสดานั้นก็รวบรวมและรักษาสืบทอดกันไวในสิ่งที่เรียกกันวาคัมภีรในพระพุทธศาสนา เรียกคัมภีรที่รักษาคําสอนของพระพุทธเจาซึ่งเปนพระศาสดาของพระพุทธศาสนาวา “พระไตรปฎก”
พระไตรปฎก คือที่สถิตของพระศาสดา
คัมภีรศาสนา เชน ในพระพุทธศาสนาคือพระไตรปฎกนี้เปนมาตรฐาน เปนเกณฑตัดสินความเชื่อและการประพฤติปฏิบัติเปนที่มา เปนแหลงรักษาหลักการของศาสนานั้นๆ
ถาคําสอนหรือหลักการที่ แท ของพระศาสดาที่รักษาไว
ในพระไตรป ฎกหรือใน
คัมภีรนั้น สูญสิ้นหมดไป ก็ถือวาศาสนานั้นสูญสิ้นดังนั้น ศาสนาทั้งหลายจึงถือการรักษาคัมภีรศาสนาของตนเปนเรื่องสําคัญที่สุด และ พระพุทธศาสนาก็ถือวาการรักษาคัมภีรพระไตรปฎกเปนเรื่องใหญที่สุด แมแตในประวัติศาสตรชาติไทยของเรา มองยอนหลังไป ไมตองยาวไกล เพียงแคยุคกรุงธนบุรี และยุครัตนโกสินทรหลังกรุงเกาแตก เมื่อพระเจาตากสินมหาราชกูอิสรภาพไดรวบรวมคนไทย ตั้งกรุงธนบุรีสําเร็จ ก็ทรงดําเนินงานใหญในการฟนฟูพระพุทธศาสนา คื อ โปรดฯใหรวบรวมคัมภีรพระไตรปฎกจากหัวเมืองตางๆ มาคัดจัดตั้งเปนฉบับหลวง ที่จะเปนหลักของพระศาสนาสืบไปเมื่อพระพุทธยอดฟาจุฬาโลกมหาราช
ทรงตั้งกรุงเทพฯเปนเมืองหลวงใหมเสร็จ
จัดบานเมืองเรียบรอยแลว ก็โปรดฯใหมีการสังคายนา และคัดพระไตรปฎกฉบับหลวงขึ้นตั้งไว เปนหลักคูบานคูเมืองพระพุทธเจาเองไดตรัสไววา เมื่อพระองคปรินิพพานไปแลวธรรมวินัยที่
ทรงแสดงแลวและบัญญัติแลว แกสาวกทั้งหลายนั้นจะเปนศาสดาแทนพระองคสืบตอไป ธรรมวินัยนั้นเวลานี้อยูที่ไหนก็รักษาไวในพระไตรปฎก ธรรมวินัย ก็คือหลักการและหลักเกณฑของพระพุทธศาสนาที่มาจากพุทธพจนและพุทธบัญญัติ ซึ่งเปนบรรทัดฐานที่ชัดเจนยิ่งหลักการที่สําคัญ
อยางนิพพานซึ่งเปนจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาดวยแลว ก็ จะตองมีความแนนอนวาเปนอยางไรเพราะวาศาสนิกหรือผูปฏิบัติทั้งหลาย
ยังไมอาจรูเขาใจหลักการนี้ดวยประสบการณ ของตนเอง พระศาสดาจึงตองแสดงไว ใหชัดเทาที่จะใชภาษาสื่อสารใหสติปญญาของผูปฏิบัติรูเขาใจไดถามิฉะนั้น เมื่อปฏิบัติไป
แทนที่ จะบรรลุ นิพพานของพระพุทธศาสนา ก็อาจจะกลายเปนนิพพานของฮินดูไป
หรืออาจจะเขาถึงฌานสมาบัติ แลวก็เขาใจวานี่เปนนิพพาน หรือปฏิบัติไป
รูสึกวาจิ ตไปเข ารวมกับสภาวะอยางใดอยางหนึ่ง
แลวก็ นึกวานั่ นเปนนิพพานเพราะฉะนั้น หลักการที่สําคัญนี้ พระศาสดาจะตองวางไวอยางชัดเจนที่สุด เทาที่สติปญญาของคนที่ปฏิบัติซึ่งยังไมรูไดดวยตนเอง
จะเขาใจไดพระไตรปฎกเป นแหลงรวมคําสั่งสอนของพระพุทธเจ
า ที่เรียกวา “ธรรมวินัย”
นี้ ตั้งแตเรื่องนิพพานซึ่งเปนจุดหมายสูงสุดลงมาทั้งคําสอนทางปญญา อยางไตรลักษณ ปฏิจจสมุปบาท ทั้งขอปฏิบัติคือไตรสิกขา ตลอดจนวินัยเชนที่เรียกวา ศีล ๒๒๗ ของพระภิกษุสงฆ ศีล ๑๐ ของสามเณร และศีล ๕ ศีล ๘ ของอุบาสกอุบาสิกา ทั้งหมดนี้อาศัยพระไตรปฎกเปนแหลงรวบรวมไว และเปนมาตรฐานทั้งสิ้น
ควรจะยกพุทธพจน ที่ตรัสเมื่อจะปรินิพพาน มาย้ำเตือนพุทธศาสนิกชนกันไวเสมอๆ วา
โย โว
อานนฺท มยา ธมฺโม จ วินโย จ เทสิโต ป ฺตฺโต, โส โวมมจฺจเยน สตฺถา
(ที.ม.๑๐/๑๔๑/๑๗๘)
แปลวา: “ดูกอนอานนท ธรรมและวินัยใดที่เราไดแสดง
แลว บัญญัติแลว แกเธอทั้งหลาย,ธรรมและวินัยนั้น เปน
ศาสดาของเธอทั้งหลาย
เมื่อเราลวงลับไป”
เวลานี้ ธรรมวินัยที่ทรงตั้งไวเปนศาสดาแทนพระองคอยูที่ไหน
ก็อยูในพระไตรปฎก เพราะฉะนั้นจึงถือวา พระไตรปฎกเปนที่สถิต
ของพระพุทธเจา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น